วิธีเลือกเครื่องประดับทองให้ทนทาน: คู่มือฉบับละเอียด

เครื่องประดับทองเป็นการลงทุนที่มีมูลค่า แต่หลายคนอาจประสบปัญหาเครื่องประดับชำรุดเสียหายเร็วเกินควร วันนี้เรามาดูกันว่าจะเลือกเครื่องประดับทองอย่างไรให้ใช้ได้ยาวนาน และมีวิธีสังเกตอย่างไรว่าชิ้นไหนทนทาน
1. พิจารณาจากเปอร์เซ็นต์ทอง
- ทองคำ 96.5% (ทองคำบริสุทธิ์) : มีความอ่อนตัวสูง ขึ้นรูปสวยงาม แต่บุบสลายง่าย เหมาะกับเครื่องประดับที่ใส่ในโอกาสพิเศษ
- ทองคำ 90% : มีความแข็งแรงมากขึ้น ทนทานกว่า เหมาะสำหรับการใช้งานประจำวัน
- ทองคำ 75% (18K): มีความทนทานสูง เหมาะกับเครื่องประดับที่ต้องใช้งานหนัก
2. ลักษณะการขึ้นรูป
- ทองตัน จะมีความแข็งแรงทนทาน ลักษณะขนาดจะดูเล็กเมื่อเทียบกับทองโปร่งที่มีน้ำหนักเท่ากัน
- ทองโปร่ง ต้องใส่ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากภายในมีลักษณะที่กลวง ง่ายต่อการบุบ หรือขาด ยิ่งทองที่มีลักษณะโปร่งมาๆ ยิ่งต้องระวังในการสวมใส่ ทองชนิดนี้เหมาะกับใส่เฉพาะเนื่องในโอกาสพิเศษ
3. น้ำหนักของเครื่องประดับทอง
ถ้าเครื่องประดับทอง เป็นเปอร์เซ็นต์ทองเดียวกัน มีขนาดใกล้เคียงกัน ลวดลายเดียวกัน ทองที่มีน้ำหนักเยอะกว่าจะมีความทนทานมากกว่าทองที่มีน้ำหนักน้อยกว่า
4. ลวดลายของเครื่องประดับ
บางลวดลายจะมีความทนทานกว่าลายอื่นๆ เช่น ดิสโก้ คตกิตโบราณ เป็นต้น
5. การใช้งานและการดูแลรักษา
5.1 การเก็บรักษา
- แยกเก็บแต่ละชิ้น
- ใช้ถุงกำมะหยี่หรือกล่องเครื่องประดับ
- เก็บในที่แห้ง ไม่ชื้น
5.2 การทำความสะอาด
- ใช้น้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานอ่อนๆ
- เช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่ม
- หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีรุนแรง
5.3 ข้อควรระวังในการใส่
- ถอดก่อนอาบน้ำ
- หลีกเลี่ยงการใส่ขณะออกกำลังกาย
- ระวังการกระแทกหรือกระทบกับของแข็ง
6. การเลือกร้านและการรับประกัน
- เลือกร้านที่มีชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ
- ตรวจสอบการรับประกันสินค้า
- ขอใบรับประกันและใบกำกับสินค้า
- ***มีชื่อเป็นสมาชิกอยู่ในสมาคมค้าทองคำแห่งประเทศไทย***
สรุป
การเลือกเครื่องประดับทองให้ทนทานนั้น ต้องพิจารณาทั้งเปอร์เซ็นต์ทอง วิธีการขึ้นรูป และการใช้งาน หากเลือกถูกต้องและดูแลรักษาอย่างเหมาะสม เครื่องประดับทองจะสามารถใช้งานได้ยาวนานและส่งต่อเป็นมรดกได้ การลงทุนเพิ่มเติมในการเลือกเครื่องประดับที่มีคุณภาพดีตั้งแต่แรกจะคุ้มค่ากว่าการต้องซ่อมแซมบ่อยๆ ในระยะยาว